Ai no Melody .... (Valentine tribute)
ท่วงทำนองของความรัก..... Ryo x Pi
บทที่ 1
“เรียวจัง เปิดประตูหน่อย”
เรียวจังหรือนิชิกิโด เรียว ค่อยๆ เปิดเปลือกตาอย่างยากลำบาก พลางหรี่ตามองนาฬิกา นี่มันจะตีหนึ่งแล้วนะ ใครกันมาเรียกกลางดึกแบบนี้ เรียวจังค่อยๆ หอบสังขารไปเปิดประตูก่อนจะพบเพื่อนข้างห้องที่ยืนทำหน้าตาน่าสงสาร
“พี มีอะไรนี่มันดึกแล้วนะ”
เรียวถามสลับกับหาว จนน้ำตาคลอออกมาทำให้มองเห็นคนตรงหน้าไม่ชัดเท่าไหร่นัก
“ฉันหิวอ่ะ มีอะไรให้กินบ้างมั้ย”
ไม่ถามเปล่า ยามะพีถือวิสาสะเข้ามาในห้องของเรียว พลางสอดส่ายสายตาหาของกิน
“มีแต่บะหมี่อ่ะ ห้องนายไม่มีอะไรกินแล้วรึไง ถึงได้มาปลุกคนอื่นดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้”
เรียวนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงโซฟา มองยามะพีเดินหานู่นหานี่เพื่อประทังความหิว
“จะให้ฉันหิวตายรึไงล่ะ ฉันไม่อยากตายแบบน่าอนาจแบบนั้นนะ”
“แล้วมาปลุกฉันแบบนี้ไม่กลัวว่าฉันจะโมโหแล้วฆ่านายตายหรือไง”
“ไม่หรอก เพราะฉันรู้ว่าเรียวจังไม่ทำแบบนั้นกับฉันแน่ อ๊ะ เจอแล้ว เรียวจังกินด้วยกันมั้ยล่ะ”
“ไม่ล่ะ ฉันจะนอนแล้ว ออกไปปิดห้องให้ด้วยล่ะ”
“เรียวจังไม่หิวแน่หรอ ถ้าฉันทำแค่ถ้วยเดียว อย่ามาแย่งฉันกินล่ะ”
...ไม่อยากกินหรอก บะหมี่น่ะ...
เรียวล้มตัวลงนอนได้สักพัก ก็ได้กลิ่นหอมของบะหมี่ลอยมา ท้องเจ้ากรรมก็ดันร้องออกมาซะได้ เพราะเจ้าหน้าสวยนั่นแท้ๆ ... ไม่ไม่...บอกว่าไม่กินก็ไม่กิน
“เรียวจัง ยังไม่หลับใช่มั้ย”
“อะไรอีกหล่ะ นายเนี่ย”
“ขอนอนด้วยคนดิ ขี้เกียจเดินกลับห้องอ่ะ พอหนังท้องตึง หนังตามันก็หย่อนแล้วอ่ะ”
ไม่พูดเปล่า ยามะพีก็แทรกตัวเข้ามาผ้าห่มผืนเดียวกับเรียวซะแล้ว เรียวที่มัวแต่อึ้งไม่ตอบอะไร ยามะพีก็เลยสรุปเสร็จสรรพว่านี่คือคำอนุญาต
เฮ้อ! เป็นแบบนี้ตลอดอยู่แล้ว แต่ทำไมยังไม่ชินอีกน๊า นิชิกิโดคุง เอ๋ยยยย...
แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ยามะพีงัวเงียตื่นขึ้นก่อนจะพบว่าบนเตียงมีเพียงเขาเพียงคนเดียว
เอ๊ะ! รึว่าเขาเผลอถีบเรียวจังตกเตียงไปแล้ว ยามะพีชะโงกดูข้างเตียงแต่ก็ไม่เห็น ยามะพีหัวเราะกับความคิดของตัวเอง
“เป็นอะไร อารมณ์ดีแต่เช้า แย่งเตียงนอนคนอื่นเนี่ย มีความสุขมากมั้ย”
“ไม่ได้มีความสุขเพราะแย่งเตียงคนอื่นซะหน่อย แต่เพราะเป็นเรียวจังต่างหาก ...หอมจัง ทำอะไรกินหรอ” ยามะพีเดินผ่านเรียวไปยังโต๊ะอาหารที่มีอาหารเช้าอยู่สองสามอย่าง โดยไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของคนฟังเลย
“กินแล้วก็รีบๆ ไปซะ ไปแต่งตัว เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายอีกหรอก”
“เรียวจังนี่ทำตัวเหมือนแม่เลยนะ บ่นๆๆ แล้วก็บ่น ว่าแต่เรียวจังเหอะ แต่งเพลงไปถึงไหนแล้ว เล่นตอนวาเลนไทน์ไม่ใช่หรอ”
“ยังไม่มีอารมณ์เลย เมื่อคืนว่าจะแต่งก็หลับ”
“หรอ โทมะคุงให้แต่งเพลงแนวไหนล่ะ”
ยามะพีพูดถึงรุ่นพี่อีกคนหนึ่งที่อยู่ชมรมดนตรีสากลเหมือนเรียว ยามะพีรู้จักกับเรียวก็เพราะโทมะเป็นคนแนะนำนี่ล่ะ
“วาเลนไทน์ก็ต้องเพลงรักสิ ยากมั้ยล่ะ”
เรียวตอบ สีหน้ายามะพีหม่นลงเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งตอบเสียงสดใส
“ไม่เห็นยากเลย ก็ลองมีรักดูสักครั้ง แค่เนี้ย”
“อืม คุยกับนาย อะไรๆ มันก็ดูง่ายไปหมดเลยนะ”
เรียวประชด แต่ยามะพีก็ยังยิ้มได้ ยิ้มแบบนี้แหละที่เรียวกลัวว่าจะต้องสูญเสียมันไป หากอะไรๆ ไม่เป็นไปตามที่เขาคิด
“ไปอาบน้ำก่อนนะ รอด้วยล่ะ”
เรียวพยักหน้าแกนๆ ก่อนจะหันมาเก็บถ้วยชามแล้วเข้าไปอาบน้ำ
ภาพคนสองคนซ้อนจักรยานกันมาคงไม่เป็นที่จับตาเท่าไหร่นัก หากคนหนึ่งไม่ใช่มือกีตาร์ของวงดนตรีโรงเรียน และหากอีกคนไม่ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มหน้าหวานของโรงเรียน ทั้งที่ออกจะแปลกๆ อยู่หน่อยที่ผู้ชายสองคนซ้อนจักรยานกันมา แต่พอเรียวจังถามเหตุผล ยามะพีก็ให้คำตอบว่า...
...ฉันน่ะขี้ลืมจะตายไป ลืมกุญแจล๊อคจักรยานก็บ่อย บางทีปั่นมา แต่พอตกเย็น ก็ปั่นกลับไม่ได้ เพราะลืมกุญแจ เพราะงั้นฉันไปกับเรียวจังดีกว่า สะดวกดี แล้วฉันจะเก็บห้องให้เป็นการตอบแทนนะ.....
“นี่ เอาหัวนายออกไปจากหลังฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
เรียวบอกทันทีที่รู้สึกว่ายามะพีจะใช้หลังเขาเป็นหมอนเพื่อนอนต่ออีกรอบ
“ไม่เอาอ่ะ ก็มันง่วงนี่ เมื่อคืนนี้เรียวจังกอดฉันแน่นจนหายใจไม่ออกเลย”
ยามะพีว่า เรียวเผลอเบรคจักรยานจนหัวยามะพีโขกกับแผ่นหลังของเรียวอย่างจัง
“โอ๊ยยย เรียวจังนี่ จะหยุดก็บอกกันก่อนสิ หัวโนรึเปล่าก็ไม่รู้”
ยามะพีว่าพลางลูบหัวตัวเองป้อย
เรียวจึงจอดจักรยานแล้วหันมาเกลี่ยผมที่ปิดหน้าผากยามะพีอย่างเบามือ
“ไหน ไม่เห็นจะโนเลย นายน่ะ หัวแข็งจะตายไป”
สายตาสองคู่ประสานกันนิ่งนาน เรียวเลื่อนหน้ามาใกล้ จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ยามะพีหลับตา แต่ก่อนที่ปากของเรียวจะได้ลิ้มรสความหวานของปากอิ่ม สำนึกฝ่ายดีของเขาก็ทำงาน เรียวจึงกลบเกลื่อนความตื่นเต้นด้วยการจิ้มหน้าผากยามะพีไปหนึ่งที ยามะพีโวยวาย เรียวได้แต่หัวเราะกับท่าทางนั้น .... ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ดีกว่านะ ... ถ้าเป็นมากกว่านี้ ... วันหนึ่งอาจจะต้องเจ็บมากก็ได้... เขาไม่อยากสูญเสียรอยยิ้มแบบนี้ไปเลย
“นี่เรียวจังได้อ่านข่าวเมื่อเช้าหรือเปล่า”
ยามะพีชวนคุยขณะที่เรียวจอดจักรยานไว้ที่โรงจอดรถหลังหอประชุม
“ข่าวอะไร”
“ก็ที่เด็กนักเรียนม.ปลายฆ่าตัวตายประชดแฟนไง”
“อืม ทำไมหรอ”
“อานุภาพของความรักมันทำให้คนเราฆ่าตัวตายได้จริงๆ หรอ แล้วถ้าวันหนึ่ง ฉันตัดสินใจฆ่าตัวตายประชดบ้าง เรียวจังจะทำยังไงหรอ”
อยู่ๆ ยามะพีก็ถามขึ้นขณะที่เดินไปยังห้องเรียน เรียวหยุดเดินและหันมามองคนตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง
“ฉันก็คงจะตายตามนายไปล่ะมั้ง”
“จริงหรอ”
“จะบ้าหรอ ก็ต้องไม่จริงอยู่แล้ว ฉันไม่ใช่แฟนนายนี่ ” เรียวแสร้งหัวเราะ น้ำเสียงขมขื่นลงในตอนท้าย
“เรื่องอะไร เราถึงจะต้องทำร้ายตัวเอง เพื่อคนที่ไม่ได้รักเราล่ะ นายเองก็เหมือนกันนะ ถ้าเขาไม่รักนาย ก็แสดงว่าเขาไม่มีค่าพอให้นายทำร้ายตัวเองหรอก”
“นั่นสินะ ขอบใจนะเรียว ฉันเข้มแข็งได้แบบนี้ก็เพราะนายนะ .... ฉันไปเรียนก่อนนะ แล้วเย็นนี้จะแวะไปหาที่ชมรม”
ยามะพีว่าพลางโบกมือ เรียวยิ้มให้แทนคำตอบและมองตามร่างบางที่วิ่งหายไปตรงทางแยก
.
.. นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่ลมหายใจและหัวใจของเขาผูกติดกับคนๆ นี้... เรียวเองก็ไม่ทันได้รู้ตัวเลย...
...ฉันก็คงจะตายตามนายไปล่ะมั้ง... ไม่ได้พูดเล่นเลย
บทที่ 2
ท่ามกลางความเงียบของค่ำคืนอันมืดมิด เสียงใครบางคนที่พยายามหายใจเข้าออกอย่างยากลำบาก และพยายามดิ้นรนจากบางสิ่ง ทันทีที่หลุดพ้น เรียวสูดอากาศเข้าปอดอย่างกระหาย
“เจ้าบ้านี่ ก่ายมาได้” เรียวพูดพร้อมกับยกท่อนขาของยามะพีออกจากช่วงอกของตัวเอง นี่เป็นอีกคืนหนึ่งที่ร่างบางมาอาศัยนอนที่ห้องเรียว ด้วยเหตุผลว่า...
... ฉันเพิ่งดูหนังผีมาอ่ะ กลัว ไม่อยากนอนคนเดียว...
เรียวเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง แสงไฟเผยให้เห็นผิวเนียนสีน้ำผึ้งของอีกคนที่ยังคงหลับสนิท รูปหน้าสวยรับกับผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอน เรียวเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้ายามะพีอย่างเบามือ เฝ้ามองใบหน้าหวานที่มองเท่าไหร่ก็ไม่รู้เบื่อ ร่างบางขยับตัว เรียวชะงักรีบดึงมือกลับ ยามะพีหรี่ตาขึ้นมอง
“ยังไม่หลับอีกหรอเรียวจัง”
“จะให้หลับได้ยังไงเล่า ก็นายนอนดิ้นซะขนาดนี้” เรียวว่าพลางทำหน้าเบื่อแบบไม่จริงจังนัก ยามะพีหัวเราะคิกคักกับท่าทางนั้น ... ไม่บ่อยเลยที่เรียวจะแสดงท่าทางแบบนี้ให้เห็น
“ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะไม่ดิ้นแล้ว แต่ขอฉันนอนตรงนี้นะ” ไม่พูดเปล่า ยามะพีซุกหน้ากับอกกว้างของเรียว
“เฮ้ย!!~” เรียวร้องอย่างตกใจ แต่ก็ยอมให้เจ้าตัวยุ่งอยู่ดี
“พี นายเนี่ยน๊า” เรียวขยี้ผมยามะพีอย่างเอ็นดู
.... ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้ จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ...
เพื่อน... การกระทำของเราก็ดูจะมากกว่านั้น
คนรัก... มันก็เหมือนจะไม่ใช่
นายเป็นแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่า....ไม่รู้เลย
เหมือนไม่มีที่ให้ยืนเลย... ทรมานจังนะ
เสียงคีย์บอร์ดดังขึ้นและเงียบลงเป็นช่วงๆ สลับกับเสียงฮัมเพลง เรียวพยายามแต่ง “เพลงรัก” ตามโจทย์ที่โทมะ รุ่นพี่ที่ชมรมดนตรีสากลมอบหมายให้ แต่พยายามเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ทั้งเนื้อร้องและทำนอง ทำไมมันยากอย่างนี้นะ หรือจะลองมีความรักดูสักครั้ง... มันเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า... หากมันต้องแลกกับมิตรภาพที่เฝ้ารักษามานานแสนนาน เมื่อไม่มีสมาธิ เรียวจึงคว้ากระเป๋านักเรียนเดินออกจากชมรมไป
เสียงหัวเราะที่คุ้นเคยทำให้เรียวหันไปมองโดยอัตโนมัติ รอยยิ้มสดใสแบบที่เขาได้รับเสมอๆ จากกลีบปากสวยของยามะพี ตอนนี้มันกำลังเป็นของอาคานิชิ จิน เพื่อนร่วมห้องของเขาเอง และได้ชื่อว่าเป็นคนรักของยามะพี
“แล้วถ้าวันหนึ่ง ฉันตัดสินใจฆ่าตัวตายประชดบ้าง เรียวจังจะทำยังไงหรอ” ...
ประโยคนี้นายเก็บไว้ถามจินน่าจะดีกว่านะ
...ถ้านายเป็นคนรักของฉัน ฉันไม่มีวันปล่อยให้นายจากไปไหนแน่ๆ...
...ก๊อก ก๊อก...
เรียวเดินไปเปิดประตูอย่างเสียไม่ได้ และทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ยามะพีก็แทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับคำถามเป็นชุด
“ทำไมเรียวจังหนีกลับมาก่อนล่ะ ไปหาที่ชมรมก็ไม่เจอ ดีนะ ที่โทมะคุงบอกว่าเห็นเรียวจังออกมาแล้ว ไม่งั้นฉันต้องรอจนมืดแน่ๆ เลย จะรีบกลับก็ไม่บอกกันก่อน”
“...”
“แล้วนี่กินอะไรรึยัง ฉันหิ๊ว หิว”
“ยังเลย ไม่ค่อยหิวอ่ะ” แต่ทันทีที่พูดจบ ท้องของเรียวก็ร้องขึ้นมาฟ้องอย่างทันท่วงทีว่าเรียวโกหก
ยามะพีหัวเราะคิกก่อนจะเดินตรงไปยังโซนที่เป็นห้องครัว และหยิบบะหมี่มาสองซอง ( ยามะพีทำเป็นอยู่เท่านี้แหละ อิอิ)
“หิวก็ไม่ต้องมาทำฟอร์มหรอกน่า เดี๋ยวฉันทำเผื่อ”
และแล้วอาหารเย็นมื้อนั้นก็ผ่านไปด้วยดี เหมือนเรียวจะลืมความไม่สบายใจเมื่อตอนเย็นไปจนหมดสิ้น จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรกันแน่นะ ... ความรักจากคนตรงหน้า ... หรือแค่ได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสแบบนี้...
“นี่ เรียวจัง ถามอะไรหน่อยสิ” ยามะพีซึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาละสายตาจากหนังสือตรงหน้า ชะโงกหน้าถามเรียวซึ่งนั่งเล่นเกมส์อยู่บนพื้น
“อะไร”
“ถ้าเรารักใครคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนเขาไม่มีทีท่าว่าจะรักเราเลย เราควรทำยังไงหรอ” เรียวชะงัก ภาพเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นย้อนกลับมาอีกครั้ง... อาคานิชิ จิน... ไม่รักยามะพีอย่างงั้นหรอ
“ทำไม จินมันไม่สนใจนายรึไง” ถามเพื่อความมั่นใจเท่านั้น ...ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แก่ใจ
“ก็ไม่เชิงหรอก” คำตอบเบาๆ ไม่กี่คำ ที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดแล่นถึงหัวใจของเรียว ก็เห็นรักกันดีอยู่ไม่ใช่หรอ
“ถ้าเป็นเรียวจัง เรียวจังจะทำยังไงต่อไปหรอ” ยามะพียังคงคาดคั้น
“ฉันก็จะอยู่ข้างๆ และดูแลเขาตลอดไปเรื่อยๆ เหมือนที่เป็นมา” เรียวพูดโดยไม่มองหน้า
“เรียวจังจะไม่เรียกร้องอะไรเลยหรอ แล้วถ้าเขาไปมีคนอื่นล่ะ”
“นั่นก็แสดงว่าที่ผ่านมา ความผูกพันระหว่างเรามันไม่มีความหมายอะไรเลยนะสิ.... นายถามแต่ฉัน แล้วถ้าเป็นนายล่ะ”
“ฉันไม่เหมือนเรียวจังแน่ๆ ฉันจะบอกว่าฉันรักเขามากแค่ไหน”
“แต่ถ้าบอกไปแล้วเขาไม่ได้คิดเหมือนกับเราล่ะ” เรียวเสียงเข้ม
ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างคนสองคน....
“ถ้าเป็นแบบนั้น... แม้แต่คำว่าเพื่อนมันอาจจะไม่เหลือ...ใช่หรือเปล่า” ประโยคนี้ของเรียวเหมือนจะรำพันกับตัวเองมากกว่าที่จะตอบยามะพี
บทที่ 3
เรียววางกระเป๋าไว้บนเปียโนก่อนนั่งเล่นเพลงที่พยายามแต่งมาทั้งคืน โจทย์เพลงรักที่ได้รับจากโทมะช่างเป็นโจทย์ที่ยากแสนยากสำหรับเรียวในเวลานี้
ครืดดดด....
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เข้ามา
“นายแน่ใจหรอ ว่ากำลังเล่นเพลงรักอยู่ ทำไมฉันฟังแล้วอยากร้องไห้ก็ไม่รู้” โทมะว่าพลางหยิบโน๊ตเพลงขึ้นมาดู เรียวได้แต่ก้มหน้านิ่ง
“เศร้าไปหน่อยมั้ยเรียว วาเลนไทน์นะ นึกสิว่า คู่รักที่จูงมือกันมา อยากฟังเพลงแนวไหน”
“ผมนึกไม่ออกหรอกครับ”
“ปล่อยไปแบบนี้จะดีหรอเรียว” โทมะวางโน๊ตเพลงไว้บนเปียโน ก่อนจะมองหน้ารุ่นน้องด้วยสีหน้าจริงจัง
“....”
“ความรักไม่ใช่โน๊ตเพลงนะ ที่จะลบแล้วแต่งใหม่กี่ครั้งก็ได้ แต่งแบบไหนก็ได้ตามใจที่เราเห็นว่าดี อยากให้มันเศร้าหรือซึ้ง แต่กับความรักแล้ว มันเปราะบางกว่ามาก สิ่งที่นายคิดว่าปล่อยไปแล้วดี มันอาจจะไม่ดีก็ได้ นายอย่าลืมว่าเพลงรักเริ่มต้นได้หลายแบบและจบลงได้หลายแบบ แล้วแต่นายจะแต่งแต้มเพลงรักเพลงนั้นของนายยังไง” โทมะยิ้มมุมกว้างอย่างที่เคยทำบ่อยๆ ก่อนจะออกจากชมรมไป ปล่อยให้เรียวครุ่นคิดกับคำพูดนั้น
.... เพลงรัก ของเขากับยามะพีงั้นหรอ... ไม่เคยคิดถึงตอนจบเลย
หลายวันแล้วที่เรียวเก็บตัวเพื่อแต่งเพลงรัก จนไม่ได้สังเกตเลยว่าคนข้างๆ ไม่ได้สดใสเหมือนปกติ วันนี้ก็เช่นกัน ขณะที่เรียวกำลังเดินฮัมเพลงเบาๆ มาตามทางเดิน อยู่ๆ ยามะพีก็หยุดเดิน
“นายหยุดเดินทำไม เดี๋ยวก็ไปสายหรอก” เรียวหันมาถามด้วยท่าทางงงงง ยามะพียิ้มอย่างฝืนๆ
“ฉันแค่อยากรู้ว่าถ้าฉันถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เรียวจังจะสนใจฉันรึเปล่า แค่นั้นแหละ” เรียวไม่ได้ตอบอะไร แต่เดินกลับยืนข้างๆ ยามะพี และจับมือขวาของยามะพีขึ้นมาทาบบนอกของตน
“ตราบใดที่หัวใจดวงนี้ยังเต้นอยู่ ฉันไม่มีวันทิ้งให้นายต้องเดินอยู่ข้างหลังลำพังแน่ๆ” เรียวจ้องลงไปในดวงตายามะพีซึ่งเวลานี้เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ยามะพีพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะปล่อยให้เรียวเดินกุมมือไปถึงห้องเรียน
.... ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ฉันจะยังมีเรียวจังใช่มั้ย...
เสียงพูดคุยที่ดังเกินกว่าปกติดังมาจากหลังโรงจอดรถ เรียวสาวเท้าเร็วขึ้น ไม่ใช่ว่าอยากรู้เรื่องของคนอื่น หากแต่หนึ่งในเสียงนั้นเป็นเสียงที่คุ้นเคยเหลือเกิน
“... เลิกกันแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ”
นั้นคือประโยคสุดท้ายที่เรียวมาทันได้ยิน เรียวหันมองตามจินที่เดินสวนออกไป ก่อนจะหันมาสนใจกับร่างบางที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น
“เรียวจัง ฉัน....”
เรียวกอดยามะพีไว้แนบอก เสียงสะอึกสะอื้นและหยาดน้ำตาอุ่นๆ ทำให้หัวใจของเรียวเจ็บแปลบ
“ไม่เป็นไรนะ ยามะพี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะอยู่ข้างๆ นายเสมอ”
บทที่ 4
เสียงทัพพีตกพื้นดังจากครัวทำให้ยามะพีสะดุ้งตื่น ในหัวยังวนเวียนกับคำพูดเดิมๆ ของจินที่มันจี้ใจดำซะจนอยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ ... นี่ฉันทำร้ายความรู้สึกของคนสองคนพร้อมๆ กันอย่างที่จินพูดจริงๆ หรอ
ยามะพีเดินสะลึมสะลือเข้าไปในห้องครัวและทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้อย่างอ่อนล้า
“ตื่นแล้วหรอ ฉันทำข้าวต้มไว้ให้ กินหน่อยนะ” เรียวว่าพลางตักข้าวต้มใส่ถ้วย และรินน้ำใส่แก้ว วางให้บนโต๊ะอย่างเอาใจ
“เรียวจังสงสารฉันหรอ” .... ถ้าแค่สงสารล่ะก้อ ฉันไม่ต้องการหรอกนะ
“เปล่าซะหน่อย เห็นไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เย็นแล้วนี่ กินซะหน่อย อร่อยนะ ” ... ฉันแค่ไม่อยากเห็นนายเจ็บ เพราะฉันเจ็บมากกว่า
“แหวะ ชมตัวเองก็เป็นด้วย” ยามะพีเบ้ปากล้อเลียน
“แหม ก็เห็นกินหมดทุกทีนั่นล่ะ” เรียวพูดพร้อมกับขยี้ผมนุ่มนั้นเบาๆ .... สดใสขึ้นแล้วนะ รอยยิ้มแบบนี้...ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายมันอีก
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์ รอบๆ โรงเรียนถูกประดับประดาไปด้วยรูปหัวใจ ตุ๊กตาหมี คิวปิด และสีชมพูหลากหลายรูปแบบ แม้อาจารย์หลายๆ ท่านจะทักท้วงว่าเป็นวันที่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่บรรดานักเรียนก็ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ไม่น้อยไปกว่าวันคริสมาสต์เลยทีเดียว เรียวนั่งเล่นกีตาร์และฮัมเพลงเบาๆ โดยไม่ทันได้สังเกตร่างสูงที่ก้าวเข้ามา
“เพลงนี้ค่อยดูเป็นเพลงรักหน่อย อบอุ่นดีนะ รักที่เสียสละ” โทมะยิ้มอย่างพอใจ
เรียวยิ้ม ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะเหือดหายไป ทันทีที่ได้เห็นอีกคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามา
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ เรียว”
บทที่ 5
ยามะพีก้มลงถอดรองเท้าผ้าใบหลังจากไปวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดประตูเขาก็เหลือบเห็นกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งแปะอยู่หน้าประตู
.... วันนี้มีงานแสดงดนตรี
หกโมงเย็น ที่ห้องประชุม
มาให้ได้นะ จะรอ
... เรียว...
ยามะพีเดินเข้าหอประชุมอย่างเก้อๆ ก็ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็เห็นแต่คนมีคู่รักกันทั้งนั้น ยามะพีถอนใจยาวๆ
...เอาน่า ก็ตัดสินใจแล้วนี่...
“ยามะพี” เสียงเรียกของใครบางคน ทำให้ยามะพีรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่ทันทีที่หันไปเห็น รอยยิ้มสดใสกลับกลายเป็นรอยยิ้มฝืนๆ พร้อมๆ กับสีหน้าที่สำนึกผิด
“จินคุง ฉัน... ฉันต้องขอโทษจินคุงมากๆ เลยนะ” ยามะพีก้มหัวขอโทษ
“ขอโทษทำไม ถ้าจะมีคนผิด ก็คงต้องเป็นฉันล่ะน่า ที่ทั้งรู้ว่านายคบฉันประชดใคร แต่ก็ยังเผลอใจรักนายน่ะ” จินยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ขอโทษที่ผ่านมาทำให้ลำบากใจนะ แต่กับสำหรับเรียวจังแล้วฉัน...”
“แค่ไม่อยากเสียเพื่อนดีดีอย่างเรียวใช่มั้ยล่ะ แต่ถ้าเสียเพื่อนไปแล้วได้คนรัก...” จินว่า
“ไม่มีทางหรอกจิน เกิดเรื่องขนาดนี้ เรียวจังยังไม่ยอมปริปากซักคำ” ยามะพีพองลมแก้มป่องอย่างขัดใจ
“เรียวจังน่ะ เคยบอกว่าจะคอยอยู่ข้างๆ คนที่เขารักตลอดไป โดยที่ไม่เรียกร้องอะไร” ยามะพีพูดต่อ
“แบบนั้นก็ดีแล้วนี่ แล้วยามะพียังต้องการอะไรอีกหรอ” จินถาม
“ก็แค่ต้องการคำพูดว่ารักสักคำที่ทำให้มั่นใจเท่านั้นแหละ... ขอโทษนะ พูดแบบนี้กับจินอีกแล้ว” ยามะพีเพิ่งนึกได้ว่าได้พูดประโยคทำร้ายจิตใจประโยคเดิมวันนั้นกับจินอีกแล้ว
.... ถ้าไม่ได้รักฉันแล้วมาคบฉันทำไม... ประโยคนี้จินเคยถามยามะพีในวันนั้น
....ฉันแค่อยากให้เรียวจังพูดคำว่ารักกับฉัน อยากให้เขากลับมาทวงฉันคืนจากจิน.... ประโยคที่ยามะพีตอบจินในวันนั้น มันฟังดูเห็นแก่ตัวเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทนคบกับจินไปเพื่ออะไรในเมื่อหัวใจยามะพีเรียกร้องถึงแต่คนๆ เดียวเท่านั้น และคนๆ นั้นก็คือ เรียว...
.... ในเมื่อยามะพีไม่ได้รักกันมาตั้งแต่แรก เลิกกันแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ....
และแล้วแสงไฟในหอประชุมก็ดับพรึบลง พร้อมๆ กับแสงสปอร์ตไลท์สีเหลืองที่ส่องไปบนเวที ภาพของชายหนุ่มกับกีตาร์ที่นั่งอยู่บนเวทีสะกดสายตาของทุกคู่รัก รวมถึงสายตาของยามะพีด้วย
ท่วงทำนองของเพลงรักที่กลั่นกรองออกมาอย่างซาบซึ้งทำให้ดวงตาคู่สวยของยามะพีเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เกือบจะเผลอคิดไปว่าเรียวแต่งเพลงนี้ให้ตัวเองซะแล้ว แต่พอนึกถึงคำพูดของเรียวใบหน้าสวยก็เชิดขึ้นเล็กน้อย
....เชอะ ถ้าจะใช้เพลงนี้บอกรักล่ะก้อ ... ฉันไม่ยอมรับหรอกนะ
แต่พอคิดได้ว่าเรียวไม่ใช่คนโรแมนติกแบบนั้นใบหน้าสวยก็หม่นลงเล็กน้อย
... คิดไปเองแท้ๆ เลยนะ...
เพราะมัวแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ยามะพีไม่ได้มองไปที่เวทีจึงไม่รู้ว่าตอนนี้นั้นนักร้องเพลงรักคนนั้นหายไปจากเวทีซะแล้ว เสียงฮือฮาดังขึ้นเมื่อร่างของเรียวเดินตรงมาร่างบางที่ยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางคู่รักนับร้อย ยามะพีจ้องเรียวราวกับโดนมนต์สะกด เรียวค่อยๆ รั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดและโน้มใบหน้าเข้าหาหมายมอบจุมพิตให้คนรัก แต่ก็ต้องหยุดเมื่อถูกนิ้วเรียวสวยของยามะพียกขึ้นห้ามไว้
“ในฐานะอะไรเรียวจัง ถ้าเรียวจังไม่พูด ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ” ยามะพีค้อนเล็กๆ เรียวยิ้มขำก่อนจะกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา
“ไม่รู้จริงๆ หรอ ว่าฉันคิดยังไงกับนาย” เรียวยังคงกวนประสาทยามะพีเหมือนเคย
“ถ้าไม่พูดล่ะก้อ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลย” ยามะพีว่าพลางดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแต่เรียวก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น
“ฉันรักพีนะ รักพีคนเดียวเท่านั้น” เรียวกระซิบแผ่วเบาข้างหูก่อนจะลากริมฝีปากผ่านแก้มนุ่มเนียนและมาหยุดที่ริมฝีปากอิ่มสีชมพูที่เผยอรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ จูบที่หนักแน่นและเนิ่นนาน แทนคำสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ The END ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
บทส่งท้าย....
“นี่ พีตื่นได้แล้วนะ สายมากแล้ว” เรียวปลุกคนขี้เซาที่เอาแต่นอนมุดอยู่ในผ้าห่มตั้งแต่เช้า
“ไม่เอาอ่ะ ก็มันอายนี่นา เรียวจังออกไปข้างนอกก่อนเลย ไป” ยามะพีตอบเสียงอู้อี้ในผ้าห่ม
“อายอะไร ทำเหมือนไม่เคยนอนด้วยกันไปได้” เรียวกระเซ้า
“มันไม่เหมือนกันนี่นา ก็เมื่อก่อนแค่นอนด้วยกันเฉยๆ แต่เมื่อคืน....” ยามะพีไม่กล้าพูดต่อ
“ทำไมล่ะ เมื่อคืนทำไมหรอ” เรียวทำเสียงล้อเลียนพลางดึงผ้าห่มออกจากตัวยามะพี ร่างบางรีบดึงผ้าห่มพัลวัน แต่ก็สู้แรงเรียวไม่ไหว โผเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดทั้งผ้าห่มทั้งคนที่อยู่ในผ้าห่ม >//<
“นายนี่ตัวหอมจังเลยนะ” เรียวไม่ว่าเปล่า ก้มลงจูบเบาๆ บนไหล่บางๆ ของคนหน้าสวย ร่างบางสั่นสะท้านน้อยๆ
“นี่ เรียวจัง ฉันมีบางอย่างจะเล่าให้ฟังล่ะ เรียวจังอย่าโกรธฉันนะ” ยามะพีผละจากอ้อมกอดเรียวและมองใบหน้าคนรักอย่างเต็มตา
“จริงๆ แล้ว ฉันไม่ได้รักจินหรอก...”
“คบกับจินเพื่อให้ฉันหึงรึไง” เรียวตอบอย่างรู้ทัน ยามะพีทำหน้าตกใจ เรียวยิ้มขำๆ
“เจ้านั้นเล่าให้ฉันฟังหมดแล้วล่ะ แล้วก็บอกว่าพีต้องการอะไรจากฉัน จะว่าไป ก็ต้องขอบใจเจ้าจินมันเหมือนกันนะ” เรียวยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ว่าแล้วเชียว ถ้าปล่อยให้เรียวจังรู้เอง ชาตินี้ฉันต้องไม่ได้ยินคำว่ารักจากเรียวจังแน่ๆ “ ยามะพีทำแก้มป่องด้วยความขัดใจ
“แต่จากนี้ไป ฉันจะไม่ปล่อยให้พีต้องรอคำว่ารักจากฉันอีกแล้วล่ะ เพราะฉันจะบอกรักพีทุกวันเลย” เรียวว่า
“แหวะ น้ำเน่าเกินไปแล้วนายน่ะ” ยามะพีว่า
“ฉันก็เป็นแค่กับนายล่ะน่า” เรียวว่าพลางใช้มือประคองหน้าสวยของคนรักเพื่อรับจูบอันหอมหวาน ยามะพีหอบน้อยๆ เมื่อเรียวถอนริมฝีปากออก
“เพลงรักของเราเริ่มต้นไม่ดีนัก แต่มันจะจบลงอย่างสวยงามนะ” เรียวว่าก่อนจะประคองร่างบางให้นอนราบลงบนเตียงและมอบความรักอันแสนดูดดื่มให้หมดหัวใจ
.....ท่วงทำนองเพลงรักยังคงบรรเลงต่อไป...พร้อมๆ กับจังหวะหัวใจที่เต้นผสานกันของคนสองคน....
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~จบจริงๆ แล้วค่ะ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น